เข้ากลุ่มครอบครัวฟุตบอล คลิกที่นี่ @LN45

จ้าวแห่งศาสตร์มืด อาร์เซนอล หรือ “ศิลปินแห่งการถ่วงเวลา ล้ำหน้า Official

อัพเดทเมื่อ 25 กันยายน 2024 เข้าดู 10 ครั้ง
จ้าวแห่งศาสตร์มืด

จ้าวแห่งศาสตร์มืด อาร์เซนอล หรือ “ศิลปินแห่งการถ่วงเวลา ล้ำหน้า Official

จ้าวแห่งศาสตร์มืด อาร์เซนอล หรือ “ศิลปินแห่งการถ่วงเวลา ล้ำหน้า Official

ในวงการฟุตบอล คำว่า “Dark art” หรือที่เรียกกันสนุกๆว่าศาสตร์มืด มันคืออะไร ? จริงๆแล้วมันก็คือการเล่นที่ดูไม่ค่อยแฟร์ ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ไม่มีมารยาท หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ทีมของตัวเองนั้นได้เปรียบคู่ต่อสูั  มันอาจจะเป็นจังหวะมารยา เล่นละคร พุ่งล้ม แกล้งเจ็บ ถ่วงเวลา แอบตอดเล็กตอดน้อย ยั่วยุคู่แข่ง และอีกมากมายจะยกตัวอย่างก็คงไม่หมด

การกระทำเหล่านั้น ถ้าว่ากันตามกฏแล้ว มันก็อยู่ภายในกฏกติกาของเกมส์ แต่ถ้าให้พูดตรงๆก็ต้องบอกว่ากฏกติกาที่มีอยู่ มันไม่ได้ละเอียดครอบคลุมไปถึงจังหวะเหล่านั้นมากกว่า ในเกมส์ฟุตบอล ชัยชนะคือทุกสิ่งทุกอย่าง การใช้แทคติกแบบ Dark art มันไม่ใช่เรื่องใหม่ในเกมส์ฟุตบอล เราเห็นมานักต่อนักทุกยุคทุกสมัย ที่นักเตะบางคน หรือบางทีมพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อทำให้ทีมได้เปรียบเพื่อชัยชนะ ไม่ว่ามันจะน่าเกลียดขนาดไหน

แต่ใครจะสนละ ถ้ามันทำให้ทีมคุณได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่ง ได้เป็นแชมป์ในบั้นปลาย จริงไหมครับ ไม่มีใครมาจดจำหรอกว่าทีมนั้นทีมไหนเล่นใสสะอาด แต่สุดท้ายไม่ได้แชมป์อะไร มันอาจจะได้ผลดี แต่มันก็ต้องแลกมากับบางอย่าง อย่างเช่นเรื่องของภาพลักษณ์ของสโมสร  ตั้งแต่เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเป็นต้นมาทีม Arsenal ของ Arteta ได้ถูกหลายๆทีมในพรีเมียร์ยื่นเรื่องร้องไปยังทางพรีเมียร์ลีกว่าใช้แนวทางการเล่นแบบ Dark Art มากเกินความจำเป็น

โดยมีสถิติออกมาว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีการถ่วงเวลามากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการเตะออกมาจากประตู การแกล้งลงไปนอนเจ็บ หรือวิธีการอื่นๆอย่างการเข้าไปขวาง รบกวนผู้รักษาประตูแบบเนียนๆในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะต่างๆ ซึ่งถ้ากรรมการมองแล้วว่ามันไม่ผิดกติกา พวกเขาก็ได้รับผลประโยชน์ตรงนี้ไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมส์ล่าสุดกับทาง ManCity ที่ทั้งทางผู้จัดการอย่าง Arteta และผู้เล่นของเจ้าปืนใหญ่ได้งัดทุกกลวิธีศาสตร์มืดออกมาใช้เพื่อจะรักษาประตูที่ขึ้นนำเอาไว้ให้ได้ และพวกเขาก็เกือบทำมันได้สำเร็จ

แต่ก็อย่างว่า กาาใช้วิธีนี้บ่อยๆเพื่อเก็บผลการแข่งขัน มันก็ส่งผลถึงภาพลักษณ์ของพวกเขาเอง  จบเกมส์นี้ก็มีการโต้เถียงกันอย่างมากมานในวงการสื่อนักวิจารณ์ฟุตบอลว่าสิ่งที่ Arsenal นำมาใช้ในเกมส์มันเหมาะสมหรือไม่ แฟนๆเจ้าปืนใหญ่เองก็ต้องออกมาปกป้องทีม ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นมันถูกต้อง และภูมิใจกับทีมที่ทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ  “เมื่อก่อนพวกเราก็โดนแบบนี้ พอเราทำแบบนั้นบ้างจะเป็นอะไรไป ?“

ในช่วง 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมาก็เป็นทาง Arteta และพวกเขาเองที่มักจะออกมาตำหนิคู่แข่งว่าใช้ Dark art เล่นถ่วงเวลาบ้าง เล่นแรงบ้าง มาเล่นเกมส์อุดมากเกินไปบ้าง แต่พอวันนี้พวกเขานำมันมาใช้บ้าง ทำไมสื่อถึงรุมโจมตีพวกเขา มันไม่แฟร์เอาซะเลย พวกเขาก็แค่ทำในสิ่งเดียวกับที่พวกเขาเคยโดนมา เคยไม่ชอบมาก่อน เอาจริงๆทุกอย่าง มันก็แค่สีสันของฟุตบอลครับ ทีมไหนอยากจะเล่นแบบไหนมันก็ไม่ได้ผิดอะไรทั้งนั้น จะใช้ Dark art หรือจะเล่นแบบสุภาพบุรุษ ใสสะอาดยังไงก็ตาม สุดท้ายมันก็เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการแข่งขันแค่นั้นเอง

จริงๆแล้วด้วยคุณภาพของทีมอย่าง Arsenal ในเวลานี้ ไม่ได้จำเป็นต้องเล่นถ่วงเวลา หรือต้องงัดศาสตร์มืดอะไรมาใช้ พวกเขาก็สามารถเอาชนะทีมอื่นๆในลีกได้แทบทุกทีมอยู่แล้ว อาจจะแค่ว่าพวกเขาต้องการจะพิสูจน์ตัวเองว่า พวกเขาไม่ใช่ทีมวัยรุ่นเด็กๆที่ขาดประสบการณ์แบบก่อนหน้านี้ แต่เป็นทีมที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ เพื่อการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือฟุตบอลรายการใหญ่ๆ เพราะคู่แข่งอย่าง ManCity หรือ Liverpool ก็เป็นทีมที่แทบจะสมบูรณ์แบบ ถ้าพวกเขาไม่ทำถึงขั้นนั้นก็อาจจะทำพลาดอีกก็เป็นไปได้

แต่มันก็น่าคิดว่า แล้วทำไมทีมอย่าง ManCity ของ Pep หรือ Liverpool เองก็ไม่ได้จำเป็นต้องงัดเอาศาสตร์มืดแบบนี้มาใช้ พวกเขาก็พร้อมจะแย่งชิงความสำเร็จได้อยู่แล้ว สุดท้ายมันก็เป็นแนวทางการตัดสินใจของผู้จัดการทีมที่จะเลือกให้ทีทนั้นมีคาแรคเตอร์อย่างไร มีคำที่ว่า “ผู้จัดการทีมเป็นแบบไหน ทีมก็้ป็นแบบนั้น” นี่ก็อาจจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของทีมของ Arteta ก็เป็นไปได้ ที่ลึกๆพวกเขาก็ยังรู้สึกเป็นรองทีมของ Pep อยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งก็ถลำลึกโดนด้านมืดเข้าครอบงำไปซะแบบนั้น

พลอตเรื่องในหนังหลายๆเรื่องมันก็คล้ายๆแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ 😂🤣 ก็ต้องดูกันต่อไปว่าทีมของ Arteta เมื่อโดนเสียงวิจารณ์เข้ามาแบบนี้จะทำอย่างไรต่อไป 

โนสน โนแคร์ ภูมิใจกับแนวทางแล้วก็เล่นแบบนี้ไปให้สุดทาง ไม่ได้ผิดกติกาอะไร  หรือว่าจะปรับปรุงการเล่นให้ดูเป็นตัวเองกลับมา เพราะยังไงเวลาเจอทีมที่รองๆลงมาพวกเขาก็ไม่ได้จำเป็นต้องงัดเอาวิธีการเล่นแบบนี้มาใช้อยู่แล้ว

แต่ตอนนี้มีมฉายา “จ้าวแห่งศาสตร์มืด” คนใหม่ เราคงได้เห็นในโซเชี่ยลไปอีกนานในฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย 😂😂

ที่มา : ล้ำหน้า แหล่งรวมข่าวสารกีฬาชั้นนำ

สนใจเข้าร่วมครอบครัวเดียวกันกับเรา คลิ๊ก >> ล้ำหน้าOfficial

บทความที่น่าสนใจ คลิ๊ก : ศึกยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ManCity vs Arsenal 90 นาทีแห่งสงคราม

บทความ ล่าสุด
บิ๊กแมตช์ห้ามพลาด ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี สุดสัปดาห์นี้ ล้ำหน้า Official

บิ๊กแมตช์ห้ามพลาด ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี สุดสัปดาห์นี้ ล้ำหน้า Official

บิ๊กแมตช์ห้ามพลาด ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี สุดสัปดาห์นี้ จบซักทีกับฟุตบอลทีมชาติ ได้เวลากลับมาลุ้นฟุตบอลสโมสรกันต่อในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถ้าให้พูดตรงๆ ถ้าไม่นับเรื่องศักดิ์ศรีของฟุตบอลระดับชาติ ถ้าไม่ใช่ทัวร์นาเมนท์รายการใหญ่ๆระดับทวีปอย่าง ฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลยูโร Copa America, African Nation Cup, Asia Cup เองก็แทบจะเรียกได้ว่ามันเป็นเกมส์ที่แทบจะไม่มีความหมายอะไรมาก เมื่อเทียบกับฟุตบอลสโมสรที่ต้องบอกว่ามีความผูกพันกับแฟนๆและผู้คนในระดับโลกมากกว่า เสน่ห์ของมันก็เกิดจากความเป็นอริคู่แข่งกันของแต่ละสโมสร การแข่งขันที่ดุเดือดเอาเป็นเอาตาย เพราะมันมีการเดิมพันในความสำเร็จอย่างมากทั้งเรื่องเงินๆทองๆและถ้วยรางวัล ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกมส์ฟุตบอลทีมชาตินั้นไม่ค่อยมีนักในช่วงเวลาปกติ เพราะแบบนั้นส่วนตัวผมเองเลยไม่ค่อยได้สนใจเกมส์การแข่งขันมากนักในช่วงพักเบรค FIFA day แบบนี้