ก็ได้คู่ชิงชนะเลิศในฟุตบอลยูโร 2024 ในครั้งนี้กันแล้วนะครับ
โดยเป็นทางกระทิงหนุ่ม ทีมชาติสเปน พบกับทางทีมชาติอังกฤษนั่นเอง หลังจากที่พลพรรคสิงโตคำรามผ่านเนเธอร์แลนด์เข้ารอบมาด้วยลูกพลิกยิงสุดสวยของ Ollie Watkins ดาวยิงตัวเก่งจากสโมสร Aston Villa ในช่วงนาทีบาป 90+1
ส่วนทางกระทิงหนุ่ม สเปนนั่นผ่านเข้ารอบมาด้วยการเอาชนะทั้งเจ้าภาพเยอรมัน และรองแชมป์โลกอย่างฝรั่งเศส ด้วยฟอร์มการเล่นที่ได้รับการยอมรับจากแฟนๆทั้งโลกว่า นี่คือฟอร์มทีมที่สมควรจะได้เป็นแชมป์ในรายการนี้จริงๆ
พวกเขาเล่นระบบฟุตบอลเกมส์รุก ต่อบอล คุมจังหวะเกมส์เข้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสวยงาม และการผ่านทีมใหญ่ๆอย่างโครเอเชีย อิตาลี เยอรมันและฝรั่งเศส มาจนถึงนัดชิงก็เรียกได้ว่าพวกเขาได้พิสูจน์ตัวเองมากพอแล้วในการเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโรครั้งนี้
หันมาดูคู่แข่งอย่างทีมชาติอังกฤษ ที่ผ่านคู่แข่งในแต่ละรอบมาอย่างทุลักทุเล ทั้ง สโลเวเนีย เดนมาร์ก เซอเบีย สโลวาเกีย สวิสเซอร์แลนด์ มาจนถึงทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขาต้องเจออย่างอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ามาจนถึงนัดชิงชนะเลิศ
ต้องบอกว่าแทบจะไม่มีนัดไหนที่ทางทีมชาติอังกฤษนั้นเล่นเอาชนะคู่แข่งไปได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ
กลับกันพวกเขาเข้าใกล้มากๆกับคำว่าตกรอบหลายต่อหลายครั้ง เรียกว่าโดนฝังลงหลุมปิดฝาโลงไปแล้วแต่ก็ยังคืนชีพกลับมาได้ทุกครั้ง
มาถึงตอนนี้เราเห็นไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้งแล้วที่เราได้เห็นทีมชาติอังกฤษโกงความตายกลับมาด้วยความยอดเยี่ยมส่วนตัวของนักเตะในทีมอย่าง Bellingham Saka หรือ Watkins ในนัดล่าสุด
เรียกว่าในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ ทีมชาติอังกฤษจะถูกเรียกว่าเป็นทีมเต็งแชมป์ที่โชว์ฟอร์มได้น่าเบื่อและห่วยแตกที่สุดก็ไม่ได้ผิดจากความจริงอะไรนัก
แต่พวกเขาก็เข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง เป็นครั้งที่สองติดกันในทัวร์นาเมนท์นี้
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เราเห็นมานักต่อนักว่า ทีมที่เล่นได้กระท่อนกระแท่นมาตลอดการแข่งขันแบบนี้ สุดท้ายก็มักจบลงด้วยการเป็นแชมป์
อาจจะเพราะว่า ทีมแบบนี้มักไม่มีอะไรจะเสีย และความกดดันก็จะน้อยกว่าทีมที่ทำผลงานได้ดีมาตลอดในนัดชิงก็ได้ หรืออีกเรื่องที่เราอธิบายไม่ได้ก็คือทีมนั้นๆมีดวงที่จะเป็นแชมป์ อะไรๆก็มักจะเข้าทางพวกเขาเสมอ
นัดชิงปีนี้จะบอกว่ามันคือการเจอกันของสองทีม ที่ทีมหนึ่งเล่นด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดในการแข่งขัน กับอีกทีมที่ฟอร์มการเล่นแย่ที่สุดแต่มีดวงแชมป์มากที่สุด ก็ไม่ได้ผิดอะไร
เรื่องคุณภาพฝีเท้า เมื่อเข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศ ตัดสินกันใน 90 นาที ก็ไม่มีใครเหนือกว่าใครแล้วครับ
ด้วยตัวผู้เล่นที่ทั้งสองทีมมี เกมส์มันจะออกมาสูสีกันอย่างมาก ตัดสินกันแค่จังหวะคุณภาพหรือผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
และจังหวะแบบนั้นแหละที่เรื่องของ “โชค” จะเข้ามามีส่วนสำคัญอย่างมาก
มาถึงจุดนี้ นัดชิงฟุตบอลยูโรครั้งนี้จะเป็นการตัดสินกันไปเลยว่า ทีมฟอร์มแชมป์อย่างสเปน หรือ ทีมดวงแชมป์อย่างอังกฤษ ทีมไหนจะได้เป็นแชมป์ในรายการนี้
เดาไม่ออกจริงๆครับ เรามาลุ้นในคืนวันอาทิตย์ เช้าวันจันทร์ เวลาตี 2.00 ไปพร้อมๆกัน
ฟอร์ม หรือ ดวง อันไหนจะเหนือกว่ากัน ในเกมส์ฟุตบอล ⚽️⚽️🏆
